เลือกผู้”สร้างบ้าน”อย่างไร?ให้เหมาะสม

ใครๆ ต่างก็อยากมีบ้านในฝัน มีการตกแต่งสวยงาม เพอร์เฟค ตอบสนองความต้องการของเราได้ทุกสิ่งอย่าง แต่ใคร ?จะมาเป็นผู้ช่วยสานฝันของเราให้เป็นจริง เมื่อคิดจะปลูกสร้างบ้านสักหลังไม่ว่าจะเล็กกะทัดรัดหรือใหญ่โตโอ่อ่าตามฐานะที่มีแล้ว ควรจะเลือกผู้ปลูกสร้างบ้านอย่างไร หรือพุดง่ายๆจะให้ใคร ? มาปลูกให้นั่นเอง  คราวนี้ผมขอพูดถึงการเลือก “บริษัทรับสร้างบ้าน” ให้เป็นผู้ออกแบบและปลูกสร้างบ้านให้ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีและน่าสนใจ เพราะบริษัทรับสร้างบ้านในยุคใหม่ หรือที่เรียกว่ายุค 4 จี นี้ก็มีการพัฒนาในการให้บริการสู่ความเป็นมืออาชีพมากขึ้น

บริษัทรับสร้างบ้านในยุคปัจจุบันส่วนใหญ่แล้วจะให้บริการครบ เริ่มตั้งแต่ให้คำปรึกษา ออกแบบบ้าน ดำเนินการช่วยติดต่อประสานงานกับหน่วยงานราชการยื่นขออนุญาตปลูกสร้าง เดินเรื่องขอน้ำ ขอไฟฟ้า เลขที่บ้าน บริษัทรับสร้างบ้านบางรายเพิ่มบริการช่วยพูดคุยหรือไกล่เกลี่ยกับบ้านข้างเคียงให้เพื่อลดปัญหาข้อพิพาทระหว่างดำเนินการก่อสร้าง กล่าวได้ว่า ท่านจะสะดวกสบาย ประหยัด เมื่อท่านใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้านแล้วท่านแทบจะไม่ต้องยุ่งยากอะไรเลย บริษัทรับสร้างบ้านจะดำเนินการให้หมดแบบ “ครบวงจร” จนกระทั่งปลูกสร้างบ้านจนแล้วเสร็จสมบูรณ์ ไม่พอแค่นั้นครับ บริษัทรับสร้างบ้านเขายังมีการรับประกันผลงานอย่างน้องต้องประกอบ 3 ส่วน คือ ส่วนโครงสร้างที่จะมั่นใจได้ว่าบ้านมีความมั่นคงแข็งแรง ส่วนหลังคา เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถกันรั่วซึมจากฝน และส่วนของคุณภาพของงานและวัสดุ เพื่อให้มั่นใจในการใช้วัสดุอุปกรณ์ต่างๆและคุณภาพงานในส่วนที่ยังมองไม่เห็นในการตรวจรับ  

อย่างที่ผมเกริ่นไว้ตอนต้นว่า เมื่อคิดจะปลูกบ้านหรือคิดจะเลือกผู้ปลูกบ้านให้นั้นท่านต้องดูหรือพิจารณา ดังนี้ 

• ความน่าเชื่อถือของบริษัทรับสร้างบ้านนั้นๆ ด้วยการตรวจสอบภูมิหลัง
• งานที่ทำมามีคุณภาพหรือไม่ ง่ายๆครับท่านสามารถดูว่ามีผลงานที่ผ่านมาเป็นอย่างไร หรือไม่ก็ไปดูงานที่กำลังก่อสร้างอยู่เลยว่า งานที่สร้างหรือวัสดุอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้นั้นได้รับมาตรฐานหรือไม่
• การให้บริการทั้งก่อนและหลังการขาย(ปลูกสร้างบ้านเสร็จ)
• ตรวจเชคระดับราคาต่อตารางเมตร(ตร.ม.) โดยเทียบกับสเปคของวัสดุที่ใช้และคุณภาพการก่อสร้าง การตรวจเชคนี้จะช่วยให้การก่อสร้างบ้านไม่บานปลาย 
• ในกรณีที่ท่านตัดสินใจเลือกบริษัทที่ใช้กลยุทธ์ราคาเป็นตัวนำในการกระตุ้นการตัดสินใจ ท่านควรสอบถามหรือตรวจสอบรายการวัสดุให้ดี เพราะราคาที่ตกลงกันในตอนแรกนั้น(อาจ)ไม่รวมวัสดุหลายรายการที่จำเป็นหรือหากรวมแต่คุณภาพต่ำ ต้องซื้อเพิ่มหรือเปลี่ยนสเปคกันใหม่ ผลตามมาอาจต้องปรับแบบบ้านใหม่ แบบบ้านใหม่นั้นอาจไม่ถูกใจหรือไม่ใช่บ้านอย่างที่ท่านฝันไว้
• การรับประกันผลงาน
• และอย่าลืมครับว่า ท่านต้องขอแบบแปลนบ้านไว้ด้วยครับ เผื่อต้องปรับแก้ไขในบางจุดที่อาจเกิดปัญหาในอนาคต แบบแปลนที่มีไว้ก็จะเป็นเสมือนคู่มือสำคัญเผื่อต้องปรับแก้ไขในบางจุดที่อาจเกิดปัญหาในอนาคต

Credit: https://www.facebook.com/focushousesuratthani